ชิวิตพลิก เงิน 1 พันบาทสุดท้าย หันมาลงทุน เลี้ยงปูขาย สร้างรายได้หลักล้าน
ดีจ้าเรามีเรื่องราวดีๆมานำเสนอเพราะว่าเราจะพูดถึงเรื่องราวของคุณตูมตาม เพราะว่าได้ประสบความสำเร็จโดยารผ่าน ความลำบากและเหลือเงินก้อนสุดท้ายแค่ 1 พันบาท เลยได้หันมาทำงานด้านทำการเกษตรพร้อมทั้งดูแลพ่อแม่ที่ได้ป่วย ซึ่งทางคุณตูมตามนั่นได้ดูแลทั้งพ่อแม่พร้อมทั้งเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงปูนา สนประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
ซึ่งเเน่นอนว่าก่อนที่จะมามีวันนี้ครั้งหนึ่งคุณตูมตามได้ ทำงานประจำได้เพียงแค่ 5 เดือน เเล้วต้องลาออกเพราะว่า ต้องกลับบ้านเกิดมาดูแลพ่อที่ประสบอุบัติเหตุจนขาหักเดินไม่ได้
ซึ่งระหว่างที่ทำงานมา 5 เดือนนั่รายได้ของเขาอยู๋ที่เดือนละ 2 หมื่นบาท ประมาณ 5 เดือนเเต่พอได้ทราบว่า พ่อวัย 60 ปีประสบอุบัติเหตุตกต้นไผ่สูงกว่า 2 เมตรจึงเลือกที่จะลาออกจากงานแล้วกลับมาบ้านเพื่อดูแล เเละหาหนทางเลี้ยงครอบครัว
โดยด้นำเงินเก็บที่มีอยู่มาซื้อข้าวปลาอาหารที่จำเป็นแต่พอผ่านไปได้สักระยะเงินเก็บที่มีก็ร่อยหรอจึงจำเป็นจะต้องไปกู้ทั้งในและนอกระบบเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัวเเละเเถมเเม่ก็ได้มาป่วยในช่วงเวลาเดียวกันทำให้ทั้งบ้านนั่นเหลือเงินติดตัวเเค่เพียง 1 พันบาท
ซึ่งในช่วงนั่นคุณตูมตามได้นำเงิน 1,000 บาทสุดท้ายไปลงทุนขายของทำให้มีรายได้ขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
แต่พอขายไปได้ระยะหนึ่งก็เริ่มมีคู่เเข่งเพิ่มทำให้ต้องเลิกขายเเล้วหันมาทำงานผ่าน facebook โดยการ พรีออเดอร์สินค้า เเละหา กำไรส่วนต่างแทนโดย pre order สินค้าจำพวกผักสดปลาและเอากำไรกิโลกรัมละ 20-30 บาท นั่นเอง
โดยในตอนนั่นรายได้จากการพรีออเดอร์สินค้า ทำให้มีเงินหมุนเวียนในครอบครัวเดือนละเป็นหมื่นแต่นานวันก็อยากจะหาความมั่นคงให้กับในชีวิตจึงคิดอยากจะเลี้ยงปูนาขึ้นมาและประกอบกับที่ตัวเขานั้นเป็นคนชอบกินปูนาเป็นอย่างมากซึ่งเขาเคยประสบปัญหาในการเดินตามท้องนา 5-6 ชั่วโมง
แต่ว่า ไม่สามารถหาปูนามารับประทานได้จนเกิดความคิดที่จะเลี้ยงเพื่อนำมาจำหน่ายด้วย โดย เขาใช้เงินเก็บที่มีอยู่ประมาณ 20,000 บาทลงทุนเลี้ยงปูนาในบ่อปูนในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ 44 ตารางวาโดยมีการสั่งปูนาคละไซส์มาจากหลายจังหวัดครั้งแรกประมาณ 4 ตัน
แต่ว่าในการเลี้ยงครั้งแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะปูนาทั้ง 4 ตันตๅยหมดเนื่องจากเลี้ยงในบ่อปูนซึ่งมีความเย็นอีกทั้งใส่น้ำประปาลงไปจึงทำให้มีคลอรีนปะปนทำให้ปูนาไม่สามารถปรับสภาพได้ทันจึงตๅยเกลี้ยงบ่อ
เเละเเน่นอนว่าด้วยความไม่ยอมแพ้เขาได้มีการเข้าไปศึกษาหาข้อมูลมากยิ่งขึ้นและมีการสั่งซื้อปูมาเลี้ยงอีกครั้งโดยการเลือกซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาเลี้ยงแทนการซื้อตัวเล็กเพาะปูนาบอบบางและตๅยง่ายกว่าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์โดยในปัจจุบันคุณตุ่มตามได้มีการเลี้ยงปูอยู่สองสายพันธุ์ นั่นก็คือปูนาธรรมดาที่มีขนาดเล็กและปูนาพันธุ์กําแพงที่มีตัวใหญ่และรสชาติมันอร่อยกว่า
ในส่วนของ วิธีการเลี้ยงปูนาตูมตามได้มีการเปิดเผยว่าหลังจากที่ได้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาแล้วก็ให้นำมาเลี้ยงในบ่อดินเหนียวจากนั้นก็ใส่น้ำให้แฉะเป็นการสร้างบรรยากาศตามธรรมชาติและเลี้ยงต่อไปเรื่อยๆจนปูนาสามารถออกหาอาหารกินเองได้ประมาณ 5 วันก็ค่อยย้ายไปบ่อปูนซึ่งบอกบุญที่ใช้เลี้ยงปูนามีทั้งหมด 70 บ่อขนาด 2 คูณ 3 เมตร 1 บ่อสามารถเลี้ยงปูได้ประมาณ 10,000 ตัว
สำหรับการให้อาหารพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็จะให้อาหารวันละ 2 มื้อคือช่วงเช้ามืดและช่วงค่ำโดยเป็นอาหารปลาดุกเม็ดเล็กมีโปรตีนขนาด 32 และเสริมด้วยรำข้าววางตามพื้นดินเมื่ออาหารโดนน้ำและดินก็จะละลายส่วนปูก็จะหาออกมากินดินเอง ส่วนลูกปูนั้นตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 3 เดือนก็จะมีการให้ไข่แดงต้มสุกโดยให้วันละ 1 มื้อในช่วงเช้า
ซึ่งเทคนิคการผสมพันธุ์ปู 3 ครั้งต่อปีก็มีการเปิดเผยว่าปกติปูนานั้นจะสามารถออกลูกได้ปีละ 1 ครั้งเพื่อที่จะทำให้ปูนสามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปีจึงมีการบังคับให้ปูผสมพันธุ์กันและสามารถออกลูกได้ปีละ 2-3 ครั้ง
โดย หลังจากที่ปูนาออกลูกไปแล้วในช่วงฤดูฝนก็ปล่อยให้ดินแห้งแตกระแหงจากนั้นก็ฉีดน้ำเข้าไปให้เต็มที่ทำให้ปูนาเข้าใจว่าเข้าสู่ฤดูฝนอีกครั้งหนึ่งก็จะทำให้ปูนาออกมาผสมพันธุ์กันเอง ง่ายมากๆ
ซึ่งทางด้านของ การตลาดนั้นก็ได้มีขายแปลรูปทั้งปูดองและปูสดและนำมาทำเป็นน้ำพริกเขากะปิปูอีกทั้งยังมีการส่งขายตามร้านอาหารซึ่งบางเดือนนั้นก็สามารถสร้างรายได้หลักล้านบาท โดย มีการขายปูทั้งตัวเล็กที่ใช้ในการขายในส้มตำโดยจะขายในกิโลกรัมละ 80 100 บาท ในส่วนปูตัวใหญ่ที่ออกลอกคราบเรียกว่าปูนิ่มก็จะขายในกิโลกรัมละ 1,200 บาทและก้ามปูกิโลกรัมละ 1,000 บาทและสามารถส่งได้ตามร้านอาหารและภัตตาคารรวมถึงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็ยังสามารถขายได้คู่ละ 100 บาท
ที่มา : https://bit.ly/2PS49Ge
---------------------------------------------------------------------------
Visit this link to stop these emails: http://zpr.io/tqZcS
