ลุงบรรจง ทองคำ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 224 หมู่ที่ 14 บ้านสันป่างิ้ว ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เล่าให้ฟังว่า เนื่องจากที่บ้านมีพื้นที่ว่างบริเวณด้านหลังบ้าน ไม่ได้ปลูกต้นไม้หรือพืชอื่น ต่อมาลูกเขยซึ่งเป็นคนมาเลเซีย ประกอบอาชีพอยู่ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เห็นว่าหลังบ้านมีพื้นที่ว่างจึงได้ซื้อต้นพันธุ์ลองกอง โดยเป็นพันธุ์ตันหยงมัสแท้ นำมาให้ตนปลูก ขณะที่ตนและภรรยาก็อยากทดลองว่าไม้ผลจากทางภาคใต้จะสามารถนำมาปลูกในภาคเหนือได้หรือไม่
ลุงบรรจง-ป้าเป็ง ทองคำ เจ้าของสวน
ขณะเดียวกันคนพื้นบ้านในพื้นที่ไม่เชื่อว่าจะปลูกได้ผลผลิต ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจลองปลูกลองกองขึ้นในพื้นที่ว่างหลังบ้าน สังเกตพบว่า ลองกองปลูกไว้ประมาณ 5 ปี เริ่มให้ผลผลิต ซึ่งลองกองติดผลตามลำต้นเป็นพวงสีขาวขุ่น มีเปลือกหุ้มเนื้อด้านใน ซึ่งมีรสหวาน ต้นหนึ่งจะให้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม สำหรับต้นที่มีอายุนานกว่า 10-20 ปี ก็จะให้ผลผลิตมากขึ้นตามระยะการปลูก
ภายในสวนของสองสามีภรรยา ยังมีเงาะสายพันธุ์ของอินโดนีเซีย ชาวบ้านเรียกเงาะลิ้นจี่ คือ พันธุ์บาบาลู ที่ลูกเขยซื้อมาให้ปลูกเพิ่ม
ทางภาคใต้ขายกันกิโลกรัมละ 400-500 บาท ปลูกไว้กว่า 10 ต้น แต่ก็ตายไปบ้าง เหลือประมาณสัก 10 ต้น แต่ข้อเสียของเงาะพันธุ์นี้คือ ติดลูกไม่ค่อยดก อาจจะเป็นเพราะว่ามันอยู่ใต้ร่มเงาของพืชอื่น ได้รับแสงแดดไม่เต็มที่ก็ได้ ส่วนข้อดีของเงาะพันธุ์นี้ คือ ผลจะใหญ่ ขนสั้นสีแดงคล้ายผลของลิ้นจี่ เนื้อในหนา หวาน กรอบ ส่วนเมล็ดในลีบ สามารถเคี้ยวปนกับเนื้อที่หวานกรอบ
ลักษณะภายนอกคล้าย เงาะกับลิ้นจี่ผสมกัน
ลักษณะช่อ
ในสวนของ ลุงบรรจง-ป้าเป็ง ก็มีปลูกและมีผลผลิตออกมาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และมีความสดแต่กลิ่นจะไม่รุนแรงเหมือนของทางใต้ โดยจะเก็บเกี่ยวแล้วนำมามัด 3 ฝักเป็นมัดขายส่ง 18 บาท ครั้งหนึ่งประมาณ 100 กว่ามัด ทำรายได้ดีพอสมควร ส่วนสาเหตุที่สองสามีภรรยาคนขยันยึดศาสตร์ของพระราชามาดำเนินชีวิต ปลูกต้นไม้ทุกชนิดไว้ในที่ดินหลังบ้าน เนื่องจากไม่มีเวลาไปดูสวนที่อยู่ไกลบ้าน เพราะอยู่กันสองคน ต้องดูแลบ้านลูกสาวและบ้านของตนเองที่อาศัยอยู่ ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามกัน ดูแลได้สะดวกและทั่วถึง
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ผู้เขียน โทร. (089) 557-2965
ข้อมูลและภาพ จาก postnet / เทคโนโลยีชาวบ้าน technologychaoban