สองปีแล้วที่การวิ่งได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอกับ จูลี่ จีราพันธ์ ไหมซ้อน สาวนักวิ่งสายแกร่ง แถมด้วยบอดี้สุดเฟิร์ม ทั้งวิ่ง ทั้งว่ายน้ำ พร้อมประสบการณ์ตะลุยวิ่งมาราธอนต่างประเทศ อย่าเสียเวลาไปรู้จักกับเธอกันเลยนักวิ่งสายอินเตอร์ กับ จูลี่ สาวหุ่นดี เซ็กซี่ถึงต่างแดน

แนะนำตัว
ชื่อจูลี่นะคะ จีราพันธ์ ไหมซ้อน สูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม สัดส่วนอยู่ที่ 32-24-35 ปัจจุบันทำงานของตัวเอง ทำแบรด์เสื้อผ้าค่ะ



จุดเริ่มต้นของการวิ่ง
จริงๆ เริ่มต้นจากเพื่อนค่ะ เพื่อนชวนวิ่ง Fun run 5 กิโลค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็วิ่งไม่หยุดเลย วิ่งมา 2 ปีแล้ว ก็เพื่อสุขภาพด้วย มันท้าทายตัวเองดีค่ะ

เสน่ห์ของการวิ่งคืออะไร
การเอาชนะตัวเองค่ะ เพราะทุกครั้งที่เราเพิ่มระยะวิ่ง มันเป็นเหมือนการท้าทายตัวเอง แล้วการที่เราจะวิ่งได้ระยะแบบนั้นเนี่ย มันต้องถูกฝึก และผ่านการซ้อมอย่างสม่ำเสมอมากๆ ค่ะ พอทำซ้ำ ทำบ่อยเข้าทุกวันมันก็ทำให้จูลี่หลงรักการวิ่งโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวเลยค่ะ แถมสังคมเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักวิ่งน่ารักค่ะ คอยช่วยเหลือกัน เวลามีคำถามเรื่องการออกกำลังกาย หรือเรื่องวิ่งปรึกษาได้หมดค่ะ ช่วยกันป้ายยา ป้ายยาหาคนมาซื้อของ(หัวเราะ) โดยเฉพาะตอนที่เราไปวิ่งต่างประเทศ ตอนนั้นไปญี่ปุ่น บรรยากาศแบบวิวหลักล้านมาก คือเป็นงานชื่อว่า Fujisan marathon คือเป็นการวิ่งรอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งปกติเราเดินไป เราขับรถไปค่ะ มันก็คือสวยที่สุดอยู่แล้วเรามองด้วยตา แต่วันนั้น 42 กิโล เป็นการวิ่งรอบภูเขาไฟทะเลสาบ ผ่านถ้ำ มันสวยมาก แล้วก็เป็นวิ่งหน้าหนาว มันอาจจะหนาว แต่ว่าวิวมันคือ ทุกวันนี้ก็ยังจำได้ทุกรายละเอียด ไม่ได้ถ่ายรูปตอนวิ่งนะคะ แต่ว่าจำได้ทุกรายละเอียดว่ามันสวยงามแค่ไหน ปีนี้ก็เลยไปเบอร์ลินมาราธอนที่เยอรมันกำลังจะไปค่ะ

พูดถึงอุปกรณ์ที่พี่จูลี่ใช้ในการวิ่งหน่อยครับ
ก็ชุดออกกำลังกายปกติค่ะ ก็จะเป็นชุดของแบรนด์ CW-X ค่ะ รองเท้าก็จะเป็นของ Asics ค่ะ ที่เลือกแบรนด์นี้เพราะเท่าที่ลองมาหลายยี่ห้อ แบรนด์นี้มันเหมาะสมกับตัวเองด้วย คือแต่ละแบรนด์ ก็จะเหมาะกับแต่ละคนค่ะ แต่ asics ที่เลือกมาแล้ว ก็คือแบรนด์ที่ตัวเองมั่นใจค่ะ วิ่งแล้วโอเคค่ะ

พูดถึงเรื่องการฝึกซ้อมและเส้นทางที่ใช้ซ้อมเป็นประจำหน่อยครับ
ตอนนี้ก็คือซ้อมอาทิตย์ละ 3 วันค่ะ แต่เป็นแบบเข้มข้นเลยนะคะ เพราะมีแพลนเตรียมจะวิ่งฟูลมาราธอนเดือนกันยายนนี้ ที่เหลือก็เป็นว่ายน้ำ แล้วก็เข้าฟิตเนสเพื่อเวทเทรนนิ่งให้แกนกลางร่างกายและขาเราแข็งแรง เพื่อที่จะได้วิ่งได้ดีขึ้น เส้นทางที่วิ่งประจำก็แน่นอนค่ะ คือสวนลุมฯ เพราะว่าก็เจอเพื่อนๆ น้องๆ อะไรอย่างนี้เยอะ คุ้นเคยกัน

สิ่งที่ได้รับ
คือการวิ่ง จูลี่ว่ามันเหมือนมันเป็นการบอกรักตัวเองค่ะ เรื่องสุขภาพเราคงไม่ต้องพูดถึงกันมากหรอกเนอะ เพราะว่าคนรู้อยู่แล้วว่าการออกกำลังกายทำให้สุขภาพดี แต่สิ่งที่มันมากขึ้นคือเรื่องของวินัย แทนที่เราจะนอนอยู่บ้านเฉยๆ สู้เรามาวิ่ง มาออกกำลังกายหรือทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง แล้วเรามีสังคมใหม่ๆ ดีกว่าเนอะ จูลี่เป็นกำลังใจให้ทุกคนน้า
Facebook: จิตราพรรณ ใหม่ซ้อน
IG: juliejitraphan

การวิ่ง ถือเป็นการออกกำลังกายในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เและสีสันการวิ่งในแต่ละครั้ง ก็ต้องไม่พ้นสาวนักวิ่งน่ารักๆ ในงานอย่างแน่นอน

ล่าสุดเราได้ไปเจอเพจ นักวิ่งน่ารัก ในเพจจะรวบรวมเอาภาพสาวๆ จากงานวิ่งมาทั่วประเทศ มาให้หนุ่มๆ ได้ชมกัน จนเลือดสูบฉีดรุนแรงและอยากจะสมัครวิ่งมาราธอนกับเขาด้วยเลย เราไปส่องรวม สาวนักวิ่ง น่ารักๆ กันเลยดีกว่าาา า า


1.น้องยิ้ม

2.น้องจ๋อม

3.น้องเมย์

4.น้องกิ๊กกี๋

5.น้องฝ้าย

6.น้องสร้อย

7.น้องเอ๋

8.น้องแอนจี้

9.น้องเมเม่

10.น้องผักกาด

เดียร์ สวลี รัตนมารค สาวปั่นสายแข็งที่เริ่มต้นการปั่นเพียงเพื่อต้องการออกกำลังกายลดหุ่นเท่านั้น แต่หลังจากปั่นไปได้ระยะหนึ่ง การปั่นจักรยานกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอไปซะแล้ว

จุดเริ่มต้นการปั่น
เมื่อก่อนเดียร์เป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เข้าฟิตเนสลดหุ่นอะไรประมาณนั้นค่ะ แล้วคราวนี้รู้สึกว่ามันเดิมๆ ไป ก็เลยอยากจะลองเปลี่ยนรูปแบบของการออกกำลังกายดูบ้างค่ะ เดียร์เลยเปลี่ยนมาลองปั่นจักรยานกับพี่สาวค่ะ ช่วงแรกๆ ที่ปั่นก็จะตะกุกตะกักนิดนึงค่ะ แต่พอเดียร์ได้ปั่นมาเรื่อยๆ แล้ว รู้สึกเลยว่า อะไรหลายๆ อย่างมันโอเคขึ้นมาก เพราะการปั่นจักรยานมันก็เหมือนการได้ออกกำลังกายทุกส่วน แถมไม่ต้องอุดอู้ยู่แต่ในห้องฟิตเนสอย่างเดียวด้วยค่ะ มันได้เดินทางไปด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ ช่วงหลังๆ มา ก็เลยเริ่มลดการเข้าฟิตเนสน้อยลง แล้วหันมาปั่นจักรยานมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เดี๋ยวนี้ปั่นเป็นระยะทางไกลๆ ได้แล้วค่ะ สบายมาก

จักรยานที่ใช้ในปัจจุบัน
ตอนนี้เดียร์ใช้ยี่ห้อ Storck อยู่ค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เคยใช้ Giant รุ่น Beginner ค่ะ ซึ่งมันเป็นรุ่นสำหรับมือใหม่แกะกล่องแบบเดียร์ค่ะ ใช้ดีมากๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มปั่นจักรยานแรกๆ ด้วยความที่มันไม่หนักมาก และมีความทนทานค่ะ หลังจากใช้มาได้สักระยะ พอเดียร์เริ่มปั่นเก่งขึ้นก็เลยมาเปลี่ยนเป็น Storck ค่ะ แล้วตัวนี้คือเหมาะกับเดียร์ที่สุดแล้ว มันให้ฟิลลิ่งที่นุ่มนวลในเวลาปั่นมากๆ ทั้งยังตัวบอดี้ที่ปราดเปรียวของมันยิ่งทำให้เดียร์ชอบมันมากยิ่งขึ้นค่ะ

เสน่ห์ในการปั่น
                เดียร์รู้สึกว่าการปั่นจักรยานมันเป็นกีฬาที่ช่วยซัพพอร์ทร่างกาย และไม่ทำให้เราบาดเจ็บด้วย อย่างการวิ่งทั่วๆ ไป เดียร์จะรู้สึกเจ็บหัวเข่าเวลาวิ่ง แต่กีฬาจักรยานเนี่ย เวลาที่เราปั่นมันให้ความรู้สึกที่อิสระ คล่องตัว แล้วยังมีเรื่องของสังคมของคนปั่นจักรยานที่ทุกคนน่ารักมากๆ เลยค่ะ ซึ่งเดียร์ชอบจุดนี้มากๆ เลยค่ะ

สิ่งที่ได้จากการปั่นบ้าง
แน่นอนว่าสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ สองคือเราได้ลดความอ้วน ซึ่งจักรยานเนี่ยสามารถลดหน้าท้องได้ดีมาก ถ้าอย่างฟิตเนสเนี่ยเดียร์จะต้องวางโปรแกรมในการเล่นเป็นสัดส่วน แต่การปั่นจักรยานเราไม่ต้องทำอะไรขนาดนั้นเลยค่ะ ส่วนอีกเรื่องนึงคือความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับจักรยาน และเส้นทางของถนนต่างๆ รวมไปถึงสถานที่ๆ เราจะปั่นไปด้วย มันมีอะไรใหม่ๆ มาท้าทายเราอยู่เสมอค่ะ

เส้นทางที่ใช้ประจำ
ก่อนหน้านี้ เดียร์จะปั่นอยู่สกายเลนค่ะ พอเริ่มเซียนแล้วเดียร์ก็ออกมาปั่นเป็นทริปข้างนอกค่ะ อย่างตามจุดเวิร์คพ้อยท์บางปะอิน เวิร์คพ้อยท์ศูนย์ศิลปาชีพ แล้วก็เขาใหญ่ เป็นแบบทริปต่างๆ ค่ะ

ฟินให้สุดกับนักปั่นหุ่นสวย ดีกรีนางงาม ดีดี้ พัชสนันท์ ปัญญาขวัญชัย เพราะเธอเป็นถึงนางแบบ และครูสอนเดินแบบ พร้อมพ่วงดีกรีสาวงามผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย มิสไทยแลนด์เวิล์ด ปี 2010 เลยทีเดียว อย่ารอช้า ไปรู้จักกับเธอกันเลย

แนะนำตัว
ชื่อ พัชสนันท์ ปัญญาขวัญชัย หรือ ดีดี้ นะคะ ปกติดี้จะเป็นครูสอนเดินแบบรวมทั้งเป็นนางแบบมืออาชีพด้วยค่ะ แต่อาจจะมีถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาบ้าง ก่อนที่ช่วงหลังจะผันตัวมาเริ่มลงไตรกีฬาค่ะ


จุดเริ่มต้นของการปั่นจักรยาน
อาจจะเท้าความยาวหน่อยนะคะ คือก่อนหน้านี้ดี้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ คือเป็นมะเร็งระยะแรก ดี้ตรวจเจอมะเร็งตอนอายุประมาณ 21 ตอนแรกดี้ตกใจมาก เพราะในบ้านดี้ไม่มีใครมีเชื้อมะเร็งเลย มีดี้เป็นคนแรก สาเหตุมาจากอาหารการกินของเรานี่แหละ เช่นถั่ว หรือของหมักของดองตามข้างทาง เวลาเราไปทำงานเราก็มักง่ายไง เห็นอะไรก็ซื้อกินไม่ค่อยคิดมาก ระหว่างที่เรารักษาตัวมาเรื่อยๆ หมอก็แนะนำให้เราลองออกกำลังกาย สุดท้ายอย่างแรกที่เลือกก็คือจักรยาน เพราะมันไม่มีผลกระทบเยอะ อย่างวิ่งมันอาจจะมีเจ็บเข่า ปวดเท้า ปวดตัว แต่จักรยานมันไม่มีเลย มันเหมาะกับคนที่เริ่มต้นออกกำลังกายแบบดี้มาก จนปัจจุบันก็หายดีและมีความสุขกับการปั่นจักรยานมากค่ะ

จักรยานที่เลือกใช้
ดี้เลือกใช้ Cervelo P3-  เพราะว่ามันเหมาะกับการลงไตรกีฬา คือดี้ต้องบอกก่อนว่าเวลาลงไตรมันเหนื่อย ถ้าใช้เสือหมอบธรรมดามันไม่มีที่วางแขน แต่คันนี้เวลาดี้ว่ายน้ำขึ้นมาแล้วปั่นจักรยานต่อเราสามารถพักแขนได้ แล้วทำให้เราปั่นระยะยาวได้โดยที่ไม่เหนื่อยจนเกินไปค่ะ

เสน่ห์ในการปั่นจักรยาน
สำหรับดี้เลย คือดี้ไม่คิดว่าคนไทยจะรักกันขนาดนี้ พอเวลาเราปั่นจักรยานเราจะเห็นคนที่แบบคอยช่วยเหลือเราตลอดเวลาเลย แบบเหนื่อยมั้ย เอาน้ำมั้ย เอาผ้าเย็นมั้ย หรืออย่างบางทีเราไม่ได้ซ้อมมา ปั่นๆอยู่เราก็แวะจอดก็จะมีคนรีบเข้ามาถามทันทีว่าเราเป็นอะไร ไหวหรือเปล่า เอารถมั้ย ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยจะดูแลกันดีขนาดนี้ แถมมันทำให้เราได้เพื่อนเพิ่มด้วย และที่สำคัญเวลาที่เรามีเรื่องเครียด หรือเรื่องที่ทำให้คิดมาก เวลาเราปั่นจักรยานมันเหมือนเรื่องทั้งหมดนั้นมันบางลง มันโฟลว์ โล่ง สบาย ทำให้เรามีเวลาคิด ทบทวนมันอย่างละเอียดมากขึ้น มันเหมือนเราหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยค่ะ

เส้นทางที่ใช้ปั่นเป็นประจำ
ส่วนใหญ่ดี้จะซ้อมที่ราชครามหรือไม่ก็สวนสมเด็จนี่แหละค่ะ ส่วนความถี่ในการซ้อมก็ขึ้นอยู่กับตารางงาน แต่อาทิตย์นึงหลักๆ ดี้ต้องให้เวลาซ้อมตัวเองขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 2-3 วันค่ะ วันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะเรามีทีม ต้องคอยซ้อมแล้วรายงานผลให้โค้ชบ้างนิดหน่อย เพราะไม่งั้นเวลาไปแข่งเราอาจจะไม่ทันเพื่อน หรือถ้าเกิดว่างเราก็จะชวนเพื่อนออกมาปั่นด้วยกันทันที เพราะอย่างที่บอกมันผ่อนคลายเรามากสำหรับการปั่นจักรยาน

สิ่งที่เราได้รับจากการปั่นจักรยาน
แน่นอนว่าต้องได้เพื่อน ได้ความสามัคคี ได้มิตรภาพที่ดีกลับมา แล้วอีกอย่างการปั่นจักรยานทำให้สุขภาพดีขึ้นและหุ่นก็ดีขึ้นด้วย เนื่องจากอาชีพเรามันเกี่ยวข้องกับรูปร่างโดยตรงก็จำเป็นต้องดูแลตัวเอง ต้องออกกำลังกายบ้าง แถมเรากินเยอะขึ้นก็ไม่อ้วนขึ้นด้วยค่ะ ดังนั้นใครที่อยากออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามอย่าลังเลนะคะ ทำเลย ดี้เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ

วาร์ป
FB : พัชสนันท์ ปัญญาขวัญชัย
IG : diddipanda