การออมนั้น ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ จะอยู่ในช่วงวัยไหน ก็สามารถที่จะออมเงินได้ทุกอายุ ทุกช่วง และทุกวัย เพียงแต่ถ้าคุณยอมเปิดใจ และรักในการออมเงิน ชีวิตที่ดีและความมั่นคงของคุณก็จะอยู่ตรงหน้า ไม่มีคนไหนในโลกที่ออมเงินแล้วเป็นทุกข์ มีแต่จะทำให้เกิดแต่ความสุขความเจริญในชีวิต เว้นแต่ผู้ที่ออมไม่เป็น ซึ่งผู้ที่ออมไม่เป็น จะมีลักษณะเป็นผู้ออมอย่างเดียว ไม่เป็นผู้บริโภค จะเรียกคน จำพวกนี้ว่า "ขี้งก" การออมเช่นนี้ก็จะทำให้เกิดแต่ความทุกข์ การออมเงินที่ดีนั้น ควรออมแต่พอดีไม่เบียดเบียนความสุขของตนเองจนต้องทำให้เป็นทุกข์ เพราะการออม คือการที่ รายได้หักกับรายจ่าย ซึ่งเงินที่เหลือนั้น จะกลายมาเป็นเงินออม และเงินที่ออมในวันนี้จะไม่ได้สูญหายไปไหน แต่เงินจำนวนนี้จะกลับมาให้ประโยชน์แก่ผู้ที่ออมในอนาคต ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการออมเงินนั้นดีแค่ไหน จากคำที่มีคนกล่าวว่า "ไม่มีใครที่จะแก่เกินเรียน" ถ้าหากจะเปลี่ยนเป็น "ไม่มีใครที่จะแก่เกินออม" ก็จะดูเข้าท่าไปอีกแบบ เพราะฉะนั้นเริ่มต้นวันนี้ยังไม่สายที่จะออม เพื่อรากฐานที่มั่งคงในอนาคต โดยวันนี้ทีมงานสยามนิวส์ โดยวันนี้ทีมงานสยามนิวส์จะพาไปดูกระทู้หนึ่งในพันทิปเป็นการออมเงินแบบหักดิบ 4 ปี มีเงินเก็บ 8 แสน โดยมีเนื้อหาระบุว่า...
รีวิวการเก็บออมเงินแบบหักดิบ ไม่มีหยอดกระปุก ไม่มีแบงค์เก่าใหม่ ไม่มีแบงค์ 20-50-100-500-1000ปัจจุบันอายุ 27 ปี 1 เดือนเริ่มเก็บเงินตอนทำงานเมื่ออายุ 22 ปี 10 เดือนกว่าๆเงินเดือนเริ่มปีแรกและปีที่สองประมาณ 27,000 บาท ( ต.ค.56)ปีที่สามประมาณ 29,000 บาท (ต.ค.58)ปีที่สี่(ย้ายงาน ต.ค.59 ) ประมาณ 32,000 บาท เริ่มตั้งแต่ตอนทำงานเดือนแรก(ต.ค.56) จนครบ 3 ปี ( ประมาณ ต.ค.59) นะคะ------ เก็บเงินโดยวิธีหักดิบตัวเองเอาเข้าฝากประจำเดือนละ 18,000 บาท ให้พ่อแม่เดือนละ 3,000 บาท (ท่านไม่เดือดร้อนค่ะ อันนี้ตั้งใจให้เอง)เหลือใช้ประจำวัน 6,000 บาท(มีที่พักแบบนอนรวมกัน 4-6 คน เตียงสองชั้น ไม่มีแอร์ให้ค่ะ เสียค่าน้ำไฟตกเดือนละ 500-1,000 บาท )ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้หักไว้ทำบุญประมาณเดือนละ 300-500 บาท* ถ้าเหลือจากส่วนกันไว้ใช้จะเก็บไว้อีกบัญชีหนึ่งค่ะ เคลียร์บัญชีให้เป็นศูนย์รับเงินเดือนเข้าและจะใช้เงินเดือนแต่ละเดือนในวันที่ 1 ถึงวันสุดท้ายของเดือนนั้น จะใช้เงินเดือนใหม่เมื่อเข้าวันที่ 1 เดือนถัดไปค่ะ* ถ้าได้โบนัส เงินรางวัล ต่างๆมา จะเก็บออมไว้หรือซื้อของเป็นรางวัลให้ตัวเอง แล้วแต่ค่ะจะไม่มุ่งเก็บเงินส่วนนี้มาก เพราะถือว่าหักเก็บไปแล้ว* มีบัตรเครดิต แต่ทุกครั้งที่ใช้ จะโอนเงินส่วนสำหรับใช้จ่ายที่มีจำนวนเท่ากับที่รูดบัตรไปเก็บในอีกบัญชีหนึ่งทันทีค่ะ พอถึงกำหนดจ่าย ก็มีเงินพอดีจ่าย เป็นการบันทึกยอดและรับรู้ยอดเงินที่ช้อปปิ้งไปในตัว พอเข้าปีที่ 4 (ต.ค 59) เนื่องจากย้ายงาน จึงเปลี่ยนวิธีจัดสรรเงินอีกหน่อย เพราะเป็นงานที่ต้องใช้เงินมากขึ้น เข้าสังคมบ่อยขึ้น ต้องเช่าที่อยู่เองดังนี้ค่ะรายรับ 32,000- ฝากประจำ 8,000- ให้พ่อแม่ 5,000- ทำบุญ 800- เช่าที่พัก น้ำ-ไฟ 6,000- ค่าโทรศัพท์ 350- ใช้จ่ายประจำวัน 11,850(ไม่รวมค่าที่พัก น้ำไฟ โทรศัพท์)
ปล.ที่พักใกล้ที่ทำงาน เดินไปค่ะ ตั้งแต่ที่แรกจนถึงปัจจุบัน ไม่ซื้อรถ ไม่ซื้อบ้านไม่มีสินทรัพย์อื่นปัจจุบันมีเงินเก็บในบัญชี ประมาณ 820,000 บาท และที่ลงทุนใน LTF ประมาณ180,000 บาท ค่ะ (อันนี้ต้นเงินรวมดอกเบี้ยนะคะ)ปล. ใครมีแนวทางทำให้เงินงอกเงย ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ดอกเบี้ยเงินฝากโตช้าจริงๆค่ะช่วงที่เก็บเยอะ เพราะทำงานหนักค่ะ ไม่มีเวลาใช้เงิน แต่ต่อไปนี้กะว่าจะใช้เงินซื้อความสุขชีวิตบ้าง เลยลดระดับการออมลงมาพอสมควรค่ะปล. 2 ที่ตั้งชื่อว่า 4 ปี 8 แสน นับแต่ตอนทำงานค่ะ อีกประมาณ 2 แสนมาจากการหยอดกระปุกวัยเด็กจนถึงเงินเก็บช่วงอุดมศึกษา (ช่วงอุดมศึกษา ได้เรียนทุนรัฐบาล จึงขอพ่อแม่ค่าขนมเดือนละ 4,000 บาทเก็บได้ประมาณเดือนละ 1,800 - 2,000 บาท ค่ะ)ปล.3 ปีนี้และปีต่อๆไปมีเป้าหมายปีละ 100,000 บาท ขึ้นไป ค่ะ ขอรบกวนผู้มีประสบการณ์แนะนำทีนะค้า(ตั้งงบค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย อยากไปเที่ยวต่างประเทศค่ะ)ปล.4 ปีนะจะลองหยอดกระปุกตามจำนวนวันเพิ่มค่ะ 1-31 บาท ในแต่ละเดือน เดือนนึงได้ 465 บาทครบปีได้ประมาณ 5,000 กะว่าจะเอาไปซื้อ Rmf ค่ะ (100,000 ที่เก็บ ควรเข้า LTF ค่ะ)ส่วนตัวคิดว่าควรเหลือเงินฝากไว้เผื่อฉุกเฉินบ้าง ไม่กล้าลงกองทุนหมดค่ะ เลยกะจะไม่แตะยอดเงินฝากที่มีอยู่เดิมค่ะ
ส่วนอันนี้รูปสมุดบัญชีและกองทุนที่มีตอนนี้ค่ะ
ภาพจาก สมาชิกหมายเลข 4070708
ภาพจาก สมาชิกหมายเลข 4070708
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิธีการเก็บเงินวิธีนี้ หลายๆคนถึงกับขอทำตามกันเลยทีเดียว
ขอบคุณ สมาชิกหมายเลข 4070708
